LTF ไม่มีอีกแล้ว ไปต่อหรือพอแค่นี้

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF (Long Term Equity Fund) ได้สิ้นสุดไปเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา โดยมีกองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF (Super Savings Fund) มาแทนที่ แต่มีคำถามตามมาว่า หากมีเงินลงทุนอยู่ในกองทุนรวม LTF อยู่ จะทำอย่างไรต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2547 กองทุนรวม LTF ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นปีแรก ด้วยจำนวน 22 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 5,600 ล้านบาท และเมื่อสิ้นปี 2562 กองทุนรวม LTF มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 93 กองทุน มูลค่าทรัพย์สินรวม 406,415 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยมากกว่า 30% ต่อปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป็นกองทุนรวมหุ้นไทย ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง

สล็อตออนไลน์

โดยนอกจากผู้ลงทุนจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว การลงทุนในกองทุนรวม LTF ยังมีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวได้อีกด้วย เนื่องจากเกณฑ์การลงทุนกำหนดให้ผู้ลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุน 5 ปีปฏิทิน ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงการถือครองเป็น 7 ปีปฏิทินสำหรับเงินที่ลงทุนในปี 2559 ถึงสิ้นปี 2562

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investor) ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย เขียนบทความเอาไว้ในเว็บไซต์สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ในปี 2560 ว่า เขาได้เริ่มต้นลงทุนกองทุนรวม LTF ตั้งแต่ปี 2547 และใช้วิธีลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average) โดย ณ สิ้นปี 2560 กองทุนรวม LTF ที่เขาลงทุนไปนั้น ให้ผลตอบแทน 10.20% ต่อปีแบบทบต้น

ดร.นิเวศน์ กล่าวโดยสรุปว่า นอกจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว ความสำคัญของการลงทุนผ่านกองทุนรวม LTF คือ เป็นช่องทางการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ และเป็นการฝึกวินัยการลงทุนที่ดีอีกด้วย

jumboslot

อย่างไรก็ตาม สิ้นปีที่ผ่านมาเป็นปีสุดท้ายที่ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนรวม LTF และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จึงมีข้อสงสัยตามมาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกองทุนนี้ และผู้ที่ลงทุนมาก่อนหน้าควรหยุดหรือลงทุนต่อไป

ปัจจุบันกองทุนรวม LTF มี 2 รูปแบบ คือ

​1. กองทุนรวม LTF ที่ไม่ให้ลงทุนเพิ่มแล้ว แต่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) จะยังคงบริหารเงินก้อนเดิมของผู้ลงทุนต่อไปเรื่อยๆ

  1. กองทุนรวม LTF ที่สามารถซื้อขายเพิ่มได้ตามปกติ เหมือนกองทุนรวมทั่วไป โดยเงินลงทุนก้อนใหม่ตั้งแต่ปี 2563 จะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังกังวลว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป กองทุนรวม LTF จะถูกเทขายจนถึงขั้นปิดกองหรือไม่ คำตอบคือ ผู้ลงทุนจะขายออกไปได้ก็ต่อเมื่อครบกำหนดการถือครองแล้วเท่านั้น นั่นหมายความว่า เงินลงทุนในกองทุนรวม LTF ที่ไหลออกในปีนี้ ต้องเป็นเงินลงทุนในปี 2547 – 2558 เท่านั้น ส่วนเงินที่ลงทุนในปี 2559 ถึงสิ้นปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถขายออกได้

เครดิตฟรี

ข้อมูลจาก บลจ.กสิกรไทย อธิบายว่า หากเงินลงทุนที่ครบกำหนดการถือครองและมีการขายออก จะทำให้ราคามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ต่อหน่วยของกองทุนปรับลดลง แต่ไม่ถึงขั้นปิดกอง เพราะ NAV ถูกคำนวณด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมหารด้วยจำนวนหน่วยทั้งหมดของกองทุนรวม

หากมีความต้องการขายหน่วยลงทุนจำนวนหนึ่งเกิดขึ้น หน่วยลงทุนของกองทุนนั้นก็จะลดลงในสัดส่วนที่เท่ากัน ทำให้ขนาดของกองทุนรวมเล็กลงเท่านั้น ดังนั้น หากมีการขายออกจึงส่งผลกระทบกับขนาดของกองทุนเท่านั้น ซึ่งไม่ได้กระทบกับผลการดำเนินงานของกองทุนรวมแต่อย่างใด

หมายความว่า NAV ของกองทุนรวม LTF และผลการดำเนินงานในอนาคตจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของทีมผู้จัดการกองทุนว่าจะบริหารกองทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอได้มากน้อยเพียงใด

ขณะเดียวกัน หากผู้ลงทุนมองว่ากองทุนรวม LTF ที่ตนเองลงทุนนั้น มีผลการดำเนินงานที่ดีในระยะยาว มีความเชื่อมั่นในผู้จัดการกองทุน รวมถึงมีความมั่นใจต่อสภาวะการลงทุนในอนาคต ก็สามารถลงทุนต่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องขายหน่วยลงทุนออกถึงแม้จะครบกำหนดการถือครองแล้วก็ตาม พูดง่ายๆ คือ ปล่อยให้เงินลงทุนเติบโตไปเรื่อยๆ หรืออาจขายทำกำไร
แล้วนำกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนกลับมาลงทุนใหม่ (กรณีกองทุนรวม LTF สามารถซื้อขายเพิ่มได้ตามปกติ)

สล็อต

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอด 15 ปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นปี 2562 ผลการดำเนินงานของกองทุนรวม LTF เติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจ สะท้อนให้เห็นว่าการลงทุนระยะยาวและวิธีลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA สามารถช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มผลตอบแทนได้ ดังนั้น กรณีเงินก้อนที่ครบกำหนดการถือครองและสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้แล้ว ผู้ลงทุนควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ ณัฐมลทิ้งท้าย

You may also like...