3 พฤติกรรมละเลย “RMF” ลดความมั่งคั่งหลังเกษียณ
“ทำไมเราจะต้องพูดถึงการเกษียณในตอนนี้? ยังมีเวลาเหลืออีกตั้งเยอะ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลย” มีคนรอบตัวหรือบางคนที่คิดแบบนี้อยู่หรือเปล่า มารู้จักกับ 3 พฤติกรรม ที่จะทำให้คุณพลาดโอกาสสร้างความมั่งคั่งหลังเกษียณ
- RMF เหมาะกับใครไม่เคยแคร์
หลายคนคิดว่า เรื่องออมเงินสำหรับการเกษียณ ไม่ใช่ประเด็นที่จำเป็นต้องใส่ใจนักก็ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว คุณอาจจะจัดอยู่ในกลุ่มคนดังต่อไปนี้ ที่ต่างก็ต้องใส่ใจเรื่องการออมเงินสำหรับการเกษียณ
· กลุ่มคนต้องการมีเงินเหลือใช้หลังจากที่เกษียณ หรือมีแผนอย่างชัดเจนว่าจะวางมือจากการทำงาน โดยกำหนดอายุเกษียณไว้ในใจ
· ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า นักแสดง ฟรีแลนซ์ ที่ไม่มีสวัสดิการเงินออมเพื่อรองรับช่วงชีวิตวัยเกษียณ
· ลูกจ้างที่นายจ้างยังไม่พร้อมที่จะจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งทำให้ขาดเงินทุนก้อนสำคัญ สำหรับใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิต
· ลูกจ้างหรือข้าราชการที่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณอยู่แล้ว แต่ต้องการจะออมเพิ่ม เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีให้เต็มวงเงิน 5 แสนบาท ตามที่รัฐบาลสนับสนุน
ดังนั้น หากไม่สำรวจตัวเองให้ดี คุณอาจจะกำลังปิดโอกาสของตัวเองอย่างน่าเสียดายก็ได้
- เบรกเรื่องทำความเข้าใจสิทธิประโยชน์ RMF ไว้ก่อน
แค่ชีวิตประจำวันก็มีหลายเรื่องที่ต้องจดจำมากแล้ว ดังนั้น หนึ่งในพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ไม่สนใจ RMF จึงมักมีคำถามว่า “ทำไมต้องปวดหัวกับสิทธิประโยชน์ของ RMF” ซึ่งดูเหมือนมีรายละเอียดเงื่อนไขเยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีเพียง 2 เรื่องหลักๆ เท่านั้น ที่ต้องเรียนรู้ นั่นก็คือ
· การลดหย่อนภาษี ซึ่งมีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ว่าเงินลงทุนใน RMF สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ในปีภาษีนั้น และเมื่อรวมเข้ากับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
และประกันชีวิตแบบบำนาญที่จะต้องไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีนี้ ให้นับตามเวลาแบบวันชนวัน ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลงทุน
· กำไรที่ได้จากการขายคืน RMF จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ อย่างไรก็ตามหากลงทุนเกิน 15%ของเงินได้ หรือเกิน 5 แสนบาท เมื่อขายคืนหน่วยลงทุนแล้วมีกำไรจะต้องนำกำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุน ซึ่งนับเฉพาะเงินลงทุนส่วนที่เกิน ไปรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย
- ไม่สนใจเรื่องบริหาร RMF ให้เหมาะกับภาวะตลาด
ประเด็นสำคัญที่เป็นอุปสรรคลดทอนความสามารถในการสร้างกำไรให้กับ RMF มากที่สุดเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ การไม่สนใจบริหาร RMF ให้เหมาะกับภาวะตลาด โดยจะพบได้ว่าคนที่ลงทุนใน RMF ส่วนหนึ่งมักคิดว่า หลังจากซื้อ RMF
แล้วก็ไม่ต้องจัดการอะไรต่อ ทำเพียงแค่รอเวลาเพื่อลงทุนให้ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วนักลงทุนสามารถปรับพอร์ตลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าได้
· สับเปลี่ยน RMF จากบริษัทจัดการแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีข้อแม้ว่าต้องเป็นการย้ายไปในกองทุนที่เป็น RMF ด้วยกันเท่านั้น
· สับเปลี่ยน RMF เพื่อเลือกกองทุนที่มีนโยบายเหมาะสมกับเศรษฐกิจในขณะนั้น เมื่อเวลาผ่านไป นโยบายการลงทุนของ RMF ที่เคยคิดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยความไม่แน่นอน
จนอาจทำให้ผลตอบแทนที่คาดหวังลดลงได้ ดังนั้น การสับเปลี่ยนกองทุน จึงถือเป็นเคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้โอกาสการสร้างกำไรของ RMF ดีขึ้นได้
หากทำตามได้ดังนี้จะสามารถวางแผนการเงินอย่างยั่งยืนได้