เลือกกู้หนี้กับสถาบันการเงินแบบไหน ให้โดนใจ

“อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่จะดีกว่านั้นหากไม่มีหนี้สิน กล่าวได้ว่าการไม่มีโรคบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงทำให้ “สุขกาย” ส่วนการไม่มีหนี้สินสะท้อนถึงสุขภาพการเงินที่แข็งแกร่งทำให้ “สุขใจ”

อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป เพราะการกู้ยืมทำให้ได้ครอบครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงมากกว่าเงินที่มีอยู่และกู้เพื่อดำรงชีพได้ เช่น บ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ก่อนตัดสินใจกู้เงิน ต้องเลือกกู้กับสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยปัจจัยที่ต้องพิจารณา มีดังนี้

slotxo

  1. เลือกให้เหมาะสม

สินเชื่อของสถาบันการเงินมีหลายประเภท ผู้ขอสินเชื่อควรเลือกประเภทสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการกู้ยืมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น

สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash) เหมาะสำหรับผู้ที่มีหลักประกันเงินกู้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยซึ่งปลอดภาระผูกพันและต้องการเงินทุนจำนวนมากพอสมควรเพื่อประกอบธุรกิจ คิดดอกเบี้ยแบบต้นลดดอกลด โดยอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับการเลือกรูปแบบของการคิดดอกเบี้ย การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อและสถาบันการเงิน

ข้อเสีย คือ การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจะใช้เวลานานกว่าสินเชื่อประเภทอื่น มีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมสูง เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าจำนองหลักทรัพย์

xoslot

สินเชื่อรถแลกเงิน (Car for Cash) เหมาะสำหรับผู้ที่มีหลักประกันเป็นรถยนต์ที่ปลอดภาระผูกพัน ต้องการเงินทุนประมาณ 70 – 80% ของราคาประเมิน ข้อดี คือ การพิจารณาอนุมัติใช้เวลารวดเร็วเพียง 1 – 3 วัน และผู้ขอสินเชื่อยังมีรถยนต์ไว้ใช้งานตามปกติ มีค่าธรรมเนียมรวมไม่สูงนัก

ข้อเสีย คือ วิธีคิดดอกเบี้ยเป็นแบบคงที่ (Flat Rate) ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น อายุการใช้งานและความสมบูรณ์ของรถยนต์

สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีหลักประกันเงินกู้ มีรายได้ประจำ มีความต้องการใช้เงินก้อน 1 – 5 เท่าของเงินเดือน แต่อัตราดอกเบี้ยสูงมากเพราะเป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักประกันเงินกู้และอาจไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 15% – 28% ขึ้นอยู่กับระยะเวลาผ่อนชำระและวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ทั้งนี้วงเงินกู้ยืมสูงจะได้รับอัตราดอก
เบี้ยต่ำกว่า ผู้กู้ยืมจะต้องผ่อนชำระด้วยยอดเงินเท่ากันทุกงวดจนครบกำหนด

ข้อพึงระวัง คือ ต้องชำระเงินผ่อนให้ตรงตามกำหนด หากผิดนัดจะต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 28% ต่อปี

เครดิตฟรี

บัตรกดเงินสด เป็นแหล่งสินเชื่อที่สถาบันการเงินมอบบัตรกดเงินสดพร้อมวงเงิน ข้อดีคือ สะดวกสามารถกดเงินได้ที่ตู้ ATM ไม่มีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด สามารถผ่อนชำระตามความสามารถในแต่ละเดือนขั้นต่ำ 3 – 10% ของยอดเงินต้นคงค้าง อัตราดอกเบี้ยสูงระหว่าง 20 – 28% ต่อปี คิดดอกเบี้ยทุกวันตามจำนวนเงินต้นที่ยังส่งคืนไม่ครบ หากผิดนัดชำระต้องจ่ายค่าธรรมเนียม
การทวงถามหนี้ค้างชำระและเบี้ยปรับ

บัตรเครดิต เป็นแหล่งสินเชื่อที่สถาบันการเงินมอบบัตรเครดิตให้พร้อมวงเงินในการซื้อสินค้าและกดเงินสด โดยผู้ที่ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยหากชำระเงินค่าสินค้าทั้งหมดตรงตามกำหนดเวลา แต่หากชำระค่าสินค้าไม่ครบถ้วนจะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ซื้อสินค้า ส่วนการกดเงินสดจะต้องถูกคิดค่าธรรมเนียมกดเงินสด 3% และอัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปี
โดยผู้ใช้บัตรเครดิตต้องผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ 10% ของยอดเงินที่ต้องชำระตามใบแจ้งยอดรายการในแต่ละเดือน

  1. การเลือกรูปแบบการคิดดอกเบี้ย

ในการกู้ยืมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สถาบันการเงินมักจะมีทางเลือกของรูปแบบของการคิดดอกเบี้ยคือ แบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวและอัตราดอกเบี้ยคงที่

สล็อต xo

อัตราดอกเบี้ยลอยตัว จะเป็นการอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของธนาคาร คือ MLR (Minimum Loan Rate) และอัตราดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) ซึ่งอัตราดอกเบี้ยทั้งสองจะไม่คงที่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและแต่ละสถาบันการเงินจะไม่เท่ากัน

โดยปกติอัตราดอกเบี้ย MLR จะต่ำกว่า MRR ในการตัดสินใจเลือกสถาบันการเงินเพื่อขอกู้ยืมต้องเลือกสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่ำสุด เช่น

ธนาคาร A กำหนด MLR = 6.00% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ = MLR + 2% แสดงว่าอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมที่แท้จริง คือ 8.00%
ธนาคาร B กำหนด MLR = 6.25% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR + 1.9% แสดงว่าอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมที่แท้จริง คือ 8.15%

ดังนั้น จึงควรเลือกกู้ยืมธนาคาร A เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่ำกว่า

อัตราดอกเบี้ยคงที่ หลายสถาบันการเงินใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ในระดับต่ำเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจมาขอสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยคงที่มักจะใช้ได้ไม่เกิน 3 ปีแรกของการผ่อนชำระ หลังจากนั้นตั้งแต่ปีที่ 4 จะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ในการตัดสินใจเลือกสถาบันการเงินเพื่อขอกู้ยืมจะต้องเลือกสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญาต่ำที่สุด
อย่าตัดสินใจจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 1 – 3 ปีแรกเท่านั้น

อัตราดอกเบี้ยลอยตัวกับอัตราดอกเบี้ยคงที่ บางสถาบันการเงินมีทางเลือกรูปแบบการคิดดอกเบี้ยให้เลือกระหว่างอัตราดอกเบี้ยลอยตัวกับดอกเบี้ยคงที่ ดังนั้น หากผู้กู้ยืมมีมุมมองแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นให้เลือกกู้ยืมแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ แต่ถ้าผู้กู้ยืมมองว่าแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงเลือกกู้ยืมแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัว

  1. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ในการกู้ยืมเราไม่ควรตัดสินใจจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดเพียงปัจจัยเดียว ต้องพิจารณาจากปัจจัยค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมว่าโดยรวมแล้วมากน้อยเพียงใด เช่น ค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน ค่าจดจำนองหลักประกัน ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ ค่าธรรมเนียมการให้กู้ ค่าธรรมเนียมการทำเอกสารนิติกรรม ค่าอากรแสตมป์
ทั้งนี้เราควรให้สถาบันการเงินแจ้งค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อมาตัดสินใจก่อนการลงนามในสัญญากู้ยืม

ถึงแม้จะเลือกกู้หนี้กับสถาบันการเงินได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญไปมากกว่านั้น คือ การก่อหนี้ที่ดีอยู่ที่ยืมมาเพื่อใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ไม่ใช่การกู้ยืมเพื่ออวดความร่ำรวย อย่าลืมว่าการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงเป็นจุดเริ่มต้นของอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง ศึกษาให้ดีก่อนการเป็นหนี้

You may also like...