EP 2การทำ SEO 2021 เตรียมความพร้อมให้เว็บคุณขึ้นอันดับ 1 Google

ความรู้เรื่อง SEO นั้นมีอยู่มากมาย เรียนรู้เท่าไหร่ ก็ไม่มีวันจบสิ้น เพราะการทำ SEO ไม่มีสูตรสำเร็จ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ แต่ละธุรกิจใช้กลยุทธ์ทำ SEO ที่ไม่เหมือนกัน สำหรับบทความชุดนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับผู้แสวงหาแนวทางทำ SEO ที่ถูกต้อง

ทดลองเล่นสลอต

  1. SEO คือ อะไร?
    การทำ seo คือ การผลักดันเว็บไซต์ตัวเองให้ติดหน้าแรกเวลาค้นหาบน google ด้วยคีย์เวิร์ดที่ต้องการ โดยไม่ใช้การลงโฆษณา และต้องทำด้วยกระบวนการต่างๆ ในรูปแบบที่ Google ต้องการด้วย ซึ่งคำนี้ย่อมาจากคำภาษาอังกฤษว่า Search engine optimization
  2. แก่นของ Google SEO คืออะไร
    เราใช้งาน google เพื่อหาคำตอบ แต่เราเล่น facebook เพื่อความสนุก และเพื่ออวดบางสิ่งบางอย่างให้คนอื่นๆ รับรู้จริงมั้ยครับ ?
  3. ทำไมต้องทำ SEO?
    เว็บที่ติดอันดับ 1 บน Google จะมี Traffic คนเข้าเว็บ มากกว่าเว็บที่อยู่อันดับ 10 มากถึง 10 เท่าเลยนะ
    จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำ SEO ให้เว็บเราติดอันดับต้นๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหากเว็บของคุณ ไม่ติดอันดับหน้าแรก จำนวนคนเข้าเว็บของคุณ แทบจะเป็น 0 เลยกว่าได้
    ผมขอบรวบรวมตัวอย่าง volume การค้นหาของ Keyword ต่างๆ มาเปรียบเทียบให้พวกเราเห็นระหว่างเว็บอันดับ 1 กับอันดับ 10 ว่ามันจะแตกต่างกันขนาดไหน
    โปรแกรมที่ใช้ดูสถิติพวกนี้คือ kwfinder ครับผม (สำหรับเนื้อหาการใช้เครื่องมือตัวนี้ จะมีพูดถึงในหัวข้อถัดไปครับ

ทดลองเล่นสล๊อต

เพิ่ม Traffic = เพิ่มยอดขาย
ทำให้เว็บเราติดอันดับหน้าแรก หลายๆ keyword
กับทำ Keyword ที่ติดอยู่แล้ว มีอันดับสูงขึ้น

  1. การทำ SEO ยากหรือง่าย?
    จะทำ SEO ได้ผลดี ต้องมาจากเว็บที่ดีก่อนนะ
    อ่านเพิ่มเติม: คู่มือสอน WordPress สำหรับผู้เริ่มต้น
    สมมุติถ้าคู่แข่งคุณคือ Lazada เขาทำเว็บไว้ดีแค่ไหน หากคุณอยากจะชนะเขา การทำ SEO คือ การทำเว็บให้ดีกว่า Lazada แค่นั้น จึงไม่ต้องถามว่าการทำเว็บให้ดีกว่าคู่แข่งมันยากแค่ไหน
    ถ้า​คู่​แข่ง​เว็บ​เขา​สวย​อยู่​แล้ว เว็บของคุณ​ต้อง​สวย​กว่า​ ถ้า​เขา​เขียน​บทความ​ดี​อยู่​แล้วคุณ​ต้อง​เขียน​ให้​ดี​กว่า​เขา​ ถ้า​เว็บ​เขา​มี​ 100 บท​ความ​ คุณก็​ต้อง​มี​ 200 บทความ​ ถ้า​คู่แข่ง​เว็บ​เปิด​เร็ว​แค่​ไหน​ เว็บคุณ​ก็​ต้อง​เปิด​เร็ว​กว่า​
    ดังนั้น​ความ​ยาก​หรือ​ง่าย​ แต่​ละ​ธุรกิจ​จึง​ไม่​เหมือน​กัน​ ขึ้น​อยู่กับ​ว่าเว็บ​ที่​ติด​อันดับ​คือ​ใคร​ และ​เขา​ทำ​ไว้​ดี​แค่​ไหน​ หน้าที่​คุณคือ​ต้อง​ทำ​ให้​เว็บ​ของตัวคุณเองให้ดี​กว่า​เขา​ แค่​นั้น

ทดลองเล่นสล๊อต

สิ่งที่เป็นตัวตัดสินว่าเว็บไหนจะทำอันดับได้ดีกว่า
หากคุณเคยดูรายการประกวดร้องเพลง เมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศ ผู้แข่งขันทุกคนต่างร้องเพลงเพราะทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เป็นตัวตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์ คือ คะแนนโหวตจากทางบ้านนั้นเอง
คนที่จะได้คะแนนโหวตเยอะๆ อาจไม่ใช่คนที่ร้องเพลงเพราะที่สุด แต่เป็นคนที่ร้องเพลง แล้วทำให้คนฟัง มีอารมณ์ร่วมไปกับเพลง ไม่ว่าจะเป็น ความสนุก ความเศร้า ความสงสาร หรือความสะเทือนใจ นักร้องคนนั้นจึงได้คะแนนโหวตมากไปด้วย
การทำ SEO ก็เช่นเดียวกัน เมื่อทุกคนรู้หลักการทำ SEO ซึ่งไม่ได้ต่างกัน เพราะการทำ SEO มันเป็นหลักการสากล
แต่สิ่งที่ทำให้บางเว็บแพ้หรือชนะ คือ การทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรามีส่วนร่วม เช่น ใช้เวลาอ่านนานกี่นาที อ่านจนจบบทความมั้ย? อ่านจบแล้ว มีการคลิกต่อไปยังหน้าอื่น ๆ อีกกี่หน้า
ซึ่งจุดนี้แหละคือสิ่งที่ยากที่สุดของการทำ SEO เพราะการจะทำให้คนมีส่วนร่วมบนเว็บของเรามันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ และยังต้องสร้างคุณค่าให้กับผู้เข้าชมเว็บของเราด้วย

โปรสล๊อต

  1. SEO จ้างทำได้หรือไม่?

จ้างทำ SEO แบบตรง ๆ ไม่ได้ หมายความว่า หากคุณมีเงินแล้วเอาเงินมาให้ผม แต่ผมไม่ได้เข้าไปปรับแต่ง หรือออกแบบอะไรใหม่ที่เว็บคุณเลย เช่น ผมอาจจะเพิ่มปริมาณ Backlink หรือใช้โปรแกรมสร้างเป็น Bot เข้ามาเปิดปิดเว็บของคุณ

ถ้าคุณไปจ้างใครทำ SEO แล้วเขาทำอยู่แค่นี้ แสดงว่าคุณกำลังถูกหลอก สิ่งที่เขากำลังทำให้คุณมันไม่ได้ช่วยให้เว็บคุณดูดีขึ้นเลยในสายตาของ Google

คุณต้องเข้าใจ Model ทำเงินของ Google และ Facebook ก่อน พวกเขามีรายได้จากค่าโฆษณา ดังนั้น หน้าที่ของ Google และ Facebook เขาต้องบีบให้ให้พวกเราซื้อโฆษณา โดยการปรับอัลกอลิทึม ของเว็บที่จะติดหน้าแรกได้ ต้องยากที่สุด คือจะมีแค่เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้นที่ติดหน้าแรกได้

เพราะหากการทำ SEO มันจ้างกันแบบง่ายๆ ได้ คนก็จะไม่ไปซื้อโฆษณากับ Google เขาก็ต้องเสียรายได้ ดังนั้น Google จึงไม่มีทางยอมแน่ๆ

  1. ถ้าอยากจ้างทำ SEO ต้องจ้างอย่างไร?
    เพราะการทำ SEO เราไม่สามารถจ้างใครทำตรงๆ ได้ ถึงจ้างได้ ก็การันตีให้ติดหน้าแรกไม่ได้อยู่ดี คำแนะนำหากคุณต้องการใช้เงินสำหรับการจ้างทำ SEO การจะจ้างทำ SEO ให้ได้ผลเราต้องจ้างเป็นองค์รวม โดยมี 3 ส่วนหลักๆ

จ้างคนทำเว็บ
จ้างคนทำกราฟฟิค
จ้างคนทำคอนเทนต์ (เขียนบทความให้น่าอ่าน)
คุณต้องไปสร้างทีมงานเก่งๆ มา 3 ส่วนหลักๆ ด้านบน จากนั้นค่อยนัดผมไป training ทีมงานของคุณ หรือจะให้พวกเขาเรียนรู้เรื่อง SEO ด้วยตนเองก็ได้ เพื่อให้การทำงานแต่ละส่วนถูกหลัก SEO

คนทำกราฟฟิค – ต้องรู้หลักการ SEO จะได้ออกแบบและวางตำแหน่งของรูปภาพถูกต้อง เราจะทำเว็บให้สวยอย่างเดียวยังไม่พอ

คนทำเว็บ – ต้องรู้หลักการออกแบบโครงสร้างเว็บ อะไรที่จำเป็น อะไรที่ไม่จำเป็น อะไรควรทำและไม่ควรทำ เพื่อให้เว็บเป็นมิตรกับ Google Search Engine มากที่สุด

คนเขียนบทความ – ต้องรู้ก่อนว่า Google ชอบบทความประเภทไหน โครงสร้างของบทความต้องจัดเรียงเนื้อหาอย่างไรบ้าง เขียนบทความดี น่าอ่าน อย่างเดียวยังไม่พอ ต้องเขียนให้ดีในสายตาของ Google ด้วยนั้นเอง

ทำเว็บก็เหมือนเราสร้างบ้าน ต้องออกแบบก่อน แต่ไม่ใช้การออกแบบให้สวยตามใจ ต้องสวยในมิติที่ google ชอบด้วย

  1. ขั้นตอนการทำ SEO
    องค์ประกอบเริ่มต้นสำหรับการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพครับ
    7.1 On site optimization
    On page Structure (ปรับแต่งโครงสร้างเนื้อหาบนเว็บ)

Page loads FAST (ความเร็วในการเปิดเว็บ)

Use SEO-Friendly URLs (การเขียน URL ให้ Google เข้าใจง่ายๆ)
Use Responsive Design (ออกแบบเว็บไซต์ให้สามารถแสดงได้บนทุกอุปกรณ์)
Internal Links & Outbound Links (การวางลิงค์ให้เนื้อหาแต่ละหน้ามีความเชื่อมโยงหากัน)

Image Optimization (การปรับแต่งรูปภาพให้เป็นมิตรกับการค้นห้าบน Google)

Social media signals (ทำให้ง่ายต่อการแชร์ไปยัง Social media ต่างๆ)
อ่านเพิ่มเติม: แชร์เว็บไป Facebook อย่างไรให้ได้ผล
Long-form content (สร้างเนื้อหาเจาะลึก ลงรายละเอียด)

7.2 Mobile friendly
คำว่า Mobile Friendly ไม่ได้หมายถึงเว็บไซต์ที่ดูได้บนมือถือ แต่หมายถึงเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและสะดวกสบายบนมือถือ การที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ยังต้องคอยซูมเข้า ซูมออก เลื่อนซ้าย เลื่อนขวา เพื่ออ่านข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าเว็บเหล่านี้ไม่ได้ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีต่อผู้ชมเว็บไซต์ เพราะไม่เป็น Mobile Friendly
7.3 User experience

User experience คือ ความพึงพอใจของผู้ใช้ที่มีต่อเว็บของเรา โจทย์ใหญ่ของการสร้าง UX คือ จะทำยังไงให้คนที่เข้าเว็บของคุณ เกิดความพึงพอใจ เกิดความเชื่อถือในสินค้า และช่วยให้เขาเข้าถึงสิ่งที่เข้าต้องการได้ง่ายๆ
เพราะหากเราทำเว็บให้ ดูน่าเชื่อถือ โอกาสปิดการขายก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วยนั้นเอง
ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ เราจึงต้องใส่ใจ ทำเล่นๆ ไม่ได้

7.4 Keyword research
Keyword research คือ การค้นหาคำที่ผู้คนอยากรู้คำตอบ หรือคำที่สะท้อนปัญหาต่าง ๆ หรือความต้องการของคนๆ นั้น แล้วนำไปค้นหาคำตอบบน Google

การหา Keyword แม่นๆ จึงช่วยเก็บกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บของเราเพิ่มขึ้นได้

การเขียนบทความตามใจ โดยไม่สนว่าจะมีคนอยากรู้หรือไม่ เราจะเสียเวลาไปเปล่าๆ และไม่มีผลต่อการติดอันดับใด ๆ เลย

7.5 Useful Content

การทำ SEO ปี 2020 ไม่มีทางลัด การเติมบทความที่เป็นประโยชน์เข้าไปเยอะๆ คือ ทางด่วน
ถ้าคุณสังเกตเว็บใหญ่ๆ แทบทุกเว็บจะต้องมีหมวด Blog ที่เต็มไปด้วยบทความจำนวนมาก
Google Bot หลงรักเว็บไซต์ ที่มีบทความเยอะๆ เสมอ
บทความยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือทั้งต่อ User และในสายตา Google
แน่นอนเมื่อคุณมีบทความมากเท่าไหร่ เว็บไซต์ของคุณก็จะถูกหาเจอผ่าน Keyword ที่หลากหลาย จำนวนคนเข้าเว็บก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
*แต่การเขียนบทความให้ดี ให้น่าอ่านอย่างเดียวคงยังไม่พอ คุณต้องรู้วิธีเขียนบทความให้ถูกหลัก SEO ด้วย

ทำไมเราต้องเขียนบทความ (Blog)

จาก Infographic ด้านแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเขียน Blog ไว้ดังนี้

52% ของผู้บริโภค บอกว่าบทความ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า
60% ของเจ้าของกิจการ บอกกว่าบทความ จาก Brand ต่างๆ ช่วยให้เขาพัฒนาสินค้าตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
61% ของผู้บริโภคชอบซื้อสินค้าจากธุรกิจที่มีการทำคอนเทนต์ เป็นประโยชน์ เพื่อลูกค้าอยู่เสมอๆ
57% ของนักการตลาด ได้ลูกค้าใหม่ๆ จากบทความของพวกเขา
42% ของผู้บริโภคมักเข้าไปดูหลายๆ บทความเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจซื้อสินค้า
19% ของผู้ซื้อสินค้าเกี่ยวกับความสวยความงาม บอกว่าเขาสนใจสินค้าที่พบเจอ ผ่านบทความที่เขาอ่าน จากการค้นหา
7.6 Social Media

เขียนบทความเสร็จแล้ว ใครจะมาอ่านบทความของเรา?
Social Media คือ ช่องทางกระจายคอนเทนต์บนเว็บของเรา ไปให้คนรู้จักเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ Social media ยังเป็น Signal ให้ Google
มา Index ข้อมูลบนเว็บของเราได้เร็วขึ้น
ดังนั้นการแชร์บทความไปยัง Social media ต่างๆ
จะเป็นตัวช่วยเพิ่ม Traffic เข้าสู่เว็บของเรานั้นเอง
การแชร์สิ่งต่างๆ ไปยัง Social media ให้ได้ผล คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของ Social media ว่าเขาชอบคอนเทนต์ลักษณะไหนบ้าง และอะไรที่เขาไม่ชอบ
7.7 Backlinks
Backlink คือ ลิงค์จากเว็บอื่นๆ ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา เป็นสิ่งที่บอก Google ให้รู้ว่าเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้รับการยอมรับ และมีการทำเป็น reference เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับหน้าเว็บของเรา ส่งผลให้เราได้คะแนน SEO จาก Google มากขึ้นไปด้วย
ประเภทของ Backlinks
Natural-Editorial : เป็น Backlink ที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ ซึ่งเกิดจากเนื้อหาในเว็บของเราดีและมีประโยชน์ แล้วจึงมีเว็บไซต์อื่นทำการอ้างอิงเนื้อหา เขียนถึงและทำลิงค์กลับมาให้
Manual Link Building : คือลิงค์ที่เราสร้างเอง เอาไปปล่อย เอาไปแปะตามที่ต่างๆ
คำแนะนำสำหรับ manual link building คือ ถ้าหากต้องการสร้าง backlink ด้วยการ “ซื้อ” แล้ว ควรทำเป็นลักษณะซื้อบทความ editorial และมีลิงค์กลับมาที่เว็บของเรา ผ่านเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่พวก spam เว็บไซต์ หรือถ้าต้องการสร้าง Backlink เองแล้ว วิธีที่ง่ายที่สุด ก็อาจจะเริ่มด้วย
Owned asset ก่อน เช่น การทำ Video content บน Youtube ที่มีลิงค์กลับมาที่เว็บไซต์
การสร้าง Social channels ต่างๆ รวมถึงการสร้างเว็บ Blogs ขึ้นมาเอง เป็นต้น
Non-Editorial : เป็นพวกลิงค์ที่กลับมาจากคอมเม้นท์ในเว็บไซต์ต่างๆ
ที่ให้คนทั่วไปเข้าไปเขียนคอมเม้นท์ได้
Google ลดความสำคัญของ Backlink เพราะจำนวนของ Backlink ไม่ได้เป็นตัวบอกว่าเนื้อหาบนเว็บมีคุณภาพดีเสมอไป
Backlink ยังมีความจำเป็น แต่ต้องเป็นลิงค์ที่เราได้รับจากเว็บ ที่มีคุณภาพ และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ
คอนเทนต์ ของเรา และต้องมีความเป็นธรรมชาติ
หากคุณสร้างบทความที่มีคุณภาพ หน้าเว็บนั้นก็มีโอกาสติดหน้าแรกได้เช่นเดียวกัน เพราะ Google มีหลายร้อยเกณฑ์สำหรับการจัดอันดับเว็บ และเขาจะมองหาเว็บที่มีเนื้อหาที่ดีที่สุดอยู่เสมอ
สรุปการทำ SEO 2021 แนวโน้มจะเป็นอย่างไร
การติดหน้าแรก Google จะไม่มีคำว่าฟลุ๊ค เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้นที่จะติดหน้าแรกได้
เว็บสายขาว เว็บสายเทา ทำ SEO ด้วยหลักการเดียวกัน ไม่มีใครสามารถโกงหรือหลอก google ได้
บริษัทรับจ้างทำ SEO จะหายไป ถึงมีอยู่ก็ทำเว็บลูกค้าให้ติดอันดับได้ยาก เพราะทุกบทความต้องเขียนให้ละเอียด ลงลึก และสร้างสรรค์ คนนอกจะทำแทนไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ Expert ในธุรกิจของคุณ
เว็บไม่ใช่หนังสือพิมพ์ ไม่ต้องเขียนบทความทุกวัน บทความจำนวนมาก ไม่ได้ช่วยให้ organic traffic เพิ่ม ปรับปรุงบทความเดิม ที่ติดอันดับอยู่แล้ว ให้ดีขึ้น เพื่อรักษาอันดับไม่ให้ร่วง
ถ้าคุณจะทำเว็บไซต์ใหม่ ไม่ควรจดโดเมนด้วยคำ keyword ให้จดโดเมนเป็นชื่อที่จดจำง่ายๆ และแปลกๆ ไปเลย ลองพิมพ์คำว่า ที่พัก+ชื่อจังหวัด ดู แทบจะไม่มีเว็บโรงแรมปัจเจกที่พักท้องถิ่น ติดหน้าแรกได้เลย
คู่แข่งของคุณไม่ใช่เว็บธุรกิจเดียวกับคุณ คู่แข่งของคุณไม่ใช่โรงแรมข้างๆ ไม่ใช่ร้านอาหารข้างๆ ไม่ใช่คนขายสินค้าแบบเดียวกับคุณ แต่เว็บคู่แข่งของพวกคุณ คือเว็บ platform พวก Lazada Shopee Agoda TripAdvisor รวมถึงพวกเว็บสื่อที่รีวิว ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว เราต้องถูกบีบให้ไปซื้อโฆษณา หรือไปฝากพวก platform ช่วยขายนั้นเอง
การทำให้ตัวเองดัง ให้คนจดจำ บางครั้งก็ง่ายกว่าการทำเว็บให้ติดหน้าแรก หากเราทำให้ผู้คนค้นหาชื่อเว็บเราตรงๆ บน Google ได้ แบบนี้แหละคือการทำ SEO ที่ดีที่สุด
เขียนบทความยาวๆ แค่ได้เปรียบ แต่ไม่ได้แปลว่าจะชนะ การทำให้ผู้คน Engage กับ Content เราสำคัญสุด การ Engage ที่ว่ามีดังนี้
– เปิดหน้าเว็บเราต่อหลายๆ หน้า
– คลิกดูนู้นดูนี่บนเว็บของเรา
– อ่านบทความเราจนจบ
– ใช้เวลาอยู่บนเว็บเรานานๆ
– เลื่อนเม้าส์ดูเว็บเราแบบช้าๆ
– Bookmark เว็บเราเก็บไว้
– แชร์เว็บลงบน Social
จะทำแบบที่ว่าได้ทั้งหมด เราต้องกลับสู่แนวคิดพื้นฐานของ Google จงทำเว็บเพื่อให้คนจริงๆ อ่านแล้วได้ประโยชน์ อย่าพยายามทำเว็บ เพื่อให้ Google bot ชอบอย่างเดียว
หยุดหาทางลัดในการทำ SEO เพราะมันไม่มีอยู่จริงครับ เขียนบทความ หรือทำคอนเทนต์ให้เป็นธรรมชาติ อย่าไปยึดติดเรื่อง on page กับ off page ให้มากเกินไป
นิยามของ SEO จะเปลี่ยนไป จาก Search Engine Optimization สู่ Searcher Experience Optimization การปรับปรุงประสบการณ์ให้เหมาะกับคนค้นหา ไม่ได้ทำ SEO เพื่อเอาใจ search engine แต่ทำ SEO เพื่อเอาใจคนอ่าน

You may also like...