Daily Archive: January 20, 2021
แร่เงิน (Silver) คือ ธาตุลำดับที่ 47 เป็นโลหะสีขาวเงิน แร่เงินเป็นแร่ยุคโบราณอยู่ควบคู่กับมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัย ในอดีตแร่ที่มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งคือ แร่ทองเพราะเป็นเครื่องหมายของความสมบูรณ์ ร่ำรวยทำให้สัญลักษณ์ของทองคือรูปวงกลม เพราะวงกลมจะไม่มีรอยต่อเป็นเส้นเดียวไม่มีเริ่มต้น ไม่มีสิ้นสุดจึงหมายถึงความสมบูรณ์ ทดลองเล่นสลอต ส่วนแร่เงินถึงแม้จะเป็นรองแร่ทองแต่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็ได้ให้ความสำคัญกับแร่เงินพอๆ กัน โดยมีสัญลักษณ์คือรูปครึ่งวงกลมหรือรูปพระจันทร์เสี้ยว มนุษย์ได้ใช้แร่เงินเป็นเครื่องประดับตกแต่งและเป็นเครื่องใช้ต่างๆมานานแล้ว แร่เงินจึงถือว่าเป็นโลหะที่มีค่าเป็นอันดับสองรองจากทองคำ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อลึกลับเกี่ยวกับแร่เงิน อาจเป็นเพราะว่ามีสีและประกายเหมือนกับแสงของพระจัทร์คือสีขายซึ่งเป็นสีของความบริสุทธ์ ดังนั้นพวกนิยายและตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับผีสางพ่อมดแม่มดในยุโรปโดยเฉพาะยุโรปตะวันออก จึงเชื่อว่าแร่เงินหรือโลหะเงินมีอำนาจป้องกันภูตผีปีศาจ โดยเฉพาะผีดูดเลือดและมนุษย์หมาป่าได้ โดยการใช้เงินทำเป็นกระจกเงา เพื่อพิสูจน์ว่าใครเป็นผีดูดเลือดหรือมนุษย์หมาป่า หรือใช้ทำอาวุธ เช่น กระสุนเงินฆ่าพวกมนุษย์หมาป่าซึ่งเป็นที่มาของคำว่า Silver bullet ลักษณะของแร่เงินจะมีสีขาวแข็งกว่าทองเล็กน้อย มีลักษณะทึบ ถ้านำเงินไปขัดเงาจะมีประกายเป็นเงาวับ นอกจากนั้นเงินยังเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้าได้ดีที่สุดมากกว่าโลหะชนิดอื่น...
ไขข้อสงสัยมนุษย์ให้ค่า ‘ทองคำ’ ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมแพงหูฉี่? ราคา “ทองคำ” ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในตอนนี้ ชวนให้เกิดคำถามตามมาว่า คนเราให้ค่า “ทองคำ” ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ถูกค้นพบตอนไหน แล้วทำไมมันถึงได้ราคาพุ่งรัวๆ ขนาดนี้ มาหาคำตอบไปพร้อมกันอย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้ “ราคาทอง” ในตลาดโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดพบว่าราคา “ทองคำ” ปรับขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุดของปีนี้ที่ 1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี (เทียบกับราคาในเดือน ก.ย. 2554) ส่วนในประเทศไทยพบว่าราคาทองคำแตะนิวไฮที่บาทละ 29,000-29,500 บาท โดยราคาซื้อและราคาขายแทบไม่ต่างกัน ว่าแต่.. ทำไม...
สำหรับมนุษย์เราแล้ว “ทองคำ” คือโลหะมีค่า และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย ทดลองเล่นสล๊อต ทดลองเล่นสลอต แต่สงสัยไหมว่า ทำไมมนุษย์ส่วนใหญ่ถึงให้ค่ากับทองคำ ถึงขั้นทุกประเทศยอมรับให้มันเป็นสินทรัพย์สำหรับ “ทุนสำรองระหว่างประเทศ” กันเลยล่ะ!? เจ้าแร่วิบวับเหล่านี้มาจากไหน? แล้วมนุษย์ให้คุณค่ากับมันตั้งแต่เมื่อไร? เราจะพาคุณไปเปิดประวัติศาสตร์ของ “ทองคำ” ในบทความนี้ครับ.. ต้นกำเนิดของทองคำก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจที่มาของทองคำกันสักเล็กน้อย… เพราะแม้ว่าแร่ชนิดนี้สามารถขุดพบบนโลก แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นของที่อยู่บนโลกมาตั้งแต่ต้น แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอวกาศต่างหาก ทดลองเล่นสล๊อต โดยทองคำ จะเกิดขึ้นได้ภายใต้แรงดันมหาศาล อย่างการระเบิดของดวงดาว หรือไม่ก็การชนกันของดาวนิวตรอนเท่านั้น และก็เป็นไปได้ว่าทองคำที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้น ส่วนหนึ่งจะปลิวตามแรงระเบิด หรือไม่ก็ติดมากับอุกกาบาตมายังโลก ทำให้โลกของเราได้รับสายแร่ทองคํามานั่นเอง ภาพจำลองการชนกันของดาวนิวตรอน หนึ่งในสองทฤษฎีการกำเนิดทองในจักรวาล มนุษย์เราให้คุณค่ากับทองคำตั้งแต่เมื่อไร?...
1.“การเพิ่มความรู้” เป็นการทลายกำแพงโอกาสให้เราผ่านไปได้ คนมีปริญญาถ้าไม่ขี้เกียจยังไงก็ไม่อดตาย ส่วนคนไร้ปริญญาขยันแทบตายรายได้อาจแค่พอเอาตัวรอด 2.“การทำงานผลลัพธ์เท่าเดิม โดยเราออกแรงน้อยลง” ฟังดูเหมือนคนขี้เกียจ ที่คิดทุกวิถีทางให้ออกแรงน้อยลง แต่ให้ได้ผลงานเท่าเดิม แต่นี่คือวิธีคิดของคนฉลาด (ทำน้อยลง ให้ได้งานไม่น้อยลง จะได้เอาเวลาไปสร้างโอกาสที่มากขึ้น) 3.“การคิดวิธีได้เงินในเวลาที่เราหลับ” อันนี้เรื่องเดียวเลยคือ รู้วิธีให้เงินทำงานแทน จะเริ่มเรียนเป็นนักลงทุนจากสินทรัพย์อะไรก็ได้ ขอให้เริ่มนับหนึ่งให้เร็วที่สุด (ไม่มีคนรวยคนไหนที่ไม่รู้วิธีทำเงินในเวลาที่หลับอยู่ คนรวยทุกคนเขารู้วิธีทำเงินขณะหลับ!!) ADVERTISEMENT 4.“การสร้างความไว้วางใจ” ยุคนี้ไม่มีใครรวยจากการทำงานหนักคนเดียว มีแต่รวยจากการช่วยกันทำงาน ไม่มีแล้วครับ ยอดมนุษย์ One Man Show (หนังยอดมนุษย์ Marvel เดี๋ยวนี้ยังต้องเอา Batman +...
เพราะรายรับทางเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงทำให้ปัจจุบันนี้มนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ ต้องหาจ็อบเสริมกันให้วุ่น ไม่ว่าจะเป็น สอนพิเศษ รับจ้างถ่ายภาพ เก็งกำไรจากการเล่นหุ้น ไปจนถึงการขายของออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมแบบสุดๆ เพราะง่ายและสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเล่นหุ้น กองทุน หรือแม้กระทั่งการลงทุนขายของออนไลน์ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเงินทุนเริ่มต้นเพื่อต่อยอดจนก่อให้เกิดกำไรขึ้นได้ในภายหลัง ด้วยเหตุนี้เราจึงได้นำเอา 4 วิธีหาเงินลงทุนของเหล่ามนุษย์เงินเดือนแบบเราๆ มาฝากกัน รับรองชาว Gen-C Blog ทำตามได้ไม่ยากเลยครับ 1.หมั่นทำบันทึกรายรับ–รายจ่าย การทำบันทึกรายรับ–รายจ่ายเป็นประจำจะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของการใช้เงินในแต่ละเดือนว่าหมดไปกับส่วนไหนและมีค่าใช้จ่ายอันใดบ้างที่เป็นของฟุ่มเฟือย เพื่อที่เราจะได้วางแผนการใช้จ่ายให้อยู่ในขอบข่ายของเงินที่ได้รับและเก็บออมบางส่วนไว้สำหรับการลงทุนในอนาคตนั่นเอง 2.แบ่งรายรับเป็นการออมประจำทุกเดือน การออมถือเป็นวิธีที่ง่ายแต่ใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะได้เงินสักก้อน ดังนั้นการออมที่จะได้ผลดีและรวดเร็วที่สุดจึงเป็นการออมที่มีความสม่ำเสมอ เช่นการออมในบัญชีเงินฝากประจำ หรือถ้าจะให้ดีการออมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการออมที่น่าสนใจเพราะบริษัทจะช่วยสมทบเงินออมส่วนหนึ่งให้แบบฟรีๆ (ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท) ซึ่งคุ้มกว่าดอกเบี้ยเงินฝากเป็นไหนๆ 3.ออมผ่านสินทรัพย์ นอกเหนือจากการฝากเงินเข้าบัญชีประจำแล้ว...
สรุปทักษะ 5 อย่างที่จะทำให้คุณไม่มีวันตกงาน ความรู้ที่เรารับมา มีอายุเท่าไหร่ก่อนจะใช้งานไม่ได้? เฉลี่ย 9 ปี กล่าวคือ ภายในทุก ๆ 4 ปี ควรจะเรียนรู้เรื่องที่เคยรู้แล้วใหม่ทั้งหมด และมีแนวโน้มว่าจะสิ่งที่เรียนรู้มาจะมีอายุสั้นลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี(หัวหน้าห้องเคยเรียนเขียนเว็บไซต์ได้ด้วย code html เพื่อทำเว็บหน้าละชั่วโมง จนวันนี้สามารถเสกเว็บไซต์เสร็จได้ภายใน 20 นาทีโดยไม่ต้องซื้อหนังสือเลยซักเล่ม) ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนหางาน และบริษัทที่หาคนมาทำงานจะกว้างออกเรื่อย ๆ กล่าวคือ คนที่มีความรู้ความสามารถในการทำงานกับคนที่ไม่รู้ ไม่มีความสามารถในการทำงาน จะกว้างออกเรื่อย ๆ กล่าวคือ คนไม่มีงานทำเพราะไม่มีความรู้ส่วนนายจ้างเอง ก็ต้องการจ้างก็เฉพาะคนที่ทำเป็น...