ราคามีเป้าหมายอย่างไร
หน้าที่หลักของธนาคารชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย)หมายถึงการดูแลให้ระบบเศรษฐกิจมีเสถียรภาพด้านราคา ซึ่ง
เป็น การมีอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ าและไม่ปั่นป่วน (Low and stable inflation) ซึ่งจะช่วยเอื้อต่อ
การตัดสินใจรวมทั้งกำหนดแผนการบริโภค การสร้าง การเก็บออม รวมทั้งการลงทุนของภาคเอกชน รวมทั้งช่วยส่งเสริมการ
เจริญวัยทางด้านเศรษฐกิจ และก็การจ้างแรงงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพราะเหตุว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่จะระดับต่ า
และไม่ปั่นป่วนจะช่วย
รักษาอ าท้องนาจจ่ายตลาดผู้ซื้อและก็ผู้ออม
รักษาระดับความสามารถสำหรับการแข่งด้านราคาของภาคธุรกิจอีกทั้งในแล้วก็เมืองนอก
ลดความเปลี่ยนแปลงของอัตราค่าดอกเบี้ยที่จริงจริง (Real interest rate)
สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องด้วยช่วยลดความไม่เที่ยง ซึ่งเป็นเหตุลบต่อการ
คิดแผนและก็ตกลงใจสำหรับการบริโภคและก็การลงทุนของภาคเอกชน
อัตราแลกเปลี่ยนรวมทั้งดรรชนีค่าเงินบาท (NEER&REER)
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ด าเนินแนวนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดแจง (managed float) ตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม
2540 ดังนี้ ภายใต้กรอบจุดมุ่งหมายเงินเฟ้อที่ใช้แนวนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดแจง ค่าเงิน
บาทจะเคลื่อนเปลี่ยนไปตามภาวการณ์ตลาด ซึ่งสะท้อนสิ่งที่ต้องการแล้วก็อุปทานของเงินบาทเปรียบเทียบ
กับเงินตราต่างประเทศ
ดังนี้สำหรับในการด าเนินแนวทางอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจัดแจงนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (1) จะไม่ก าคราวดระดับอัตรา
แลกในค่าใดค่าหนึ่ง (2) จะดูแลไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนขยับเขยื้อนปั่นป่วนมากจนเกินความจำเป็น โดยยิ่งไปกว่านั้น
การเคลื่อนไหวจากเงินลงทุนไหลเข้าเพื่อเก็งก าไร โดยการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนจำต้องไม่ขัดกับแนวนโยบายการคลัง
ภายใต้กรอบจุดมุ่งหมายเงินเฟ้อ
แต่ ในบางช่วง ความอยากระหว่างอุปสงค์และก็อุปทานไม่ได้พอดิบพอดีกัน ท าให้ค่าเงินบาทแกว่งไกวขึ้น
ลงตลอดระยะเวลา โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย มีนโยบายให้อัตราแลกเปลี่ยนขยับเขยื้อนตามสภาวะตลาดภายใต้ข้อแม้ดังต่อไปนี้ (1)
ดูแลความปั่นป่วน (volatility) ของค่าเงินให้อยู่ในระดับที่เศรษฐกิจยอมรับได้ (2) รักษาความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการ
ชิงชัยโดยตรึกตรองจาก Nominal effective exchange rate (NEER) เป็นหลัก ซึ่งมีสกุลเงิน
ของคู่ค้าและก็ คู่ต่อสู้ที่ส าคัญในตลาดลำดับที่สาม ไม่ใช่เฉพาะ ดอลลาร์ สกรมราชองครักษ์กระทรวงกลาโหม (3) ไม่ฝ่าฝืนแนวโน้มที่สอดคล้องกับ
ปัจจัยเบื้องต้นด้านเศรษฐกิจ เพราะเหตุว่าจะน าไปสู่การสั่งสมความไม่พอดี (Imbalances)
กลไกการส่งผ่าน
การด าเนินแนวนโยบายการคลังเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นขั้นตอนที่จะต้องใช้เวลาราว 1-2 ปี ตั้งแต่แมื่อ
คณะกรรมการฯ ประกาศเปลี่ยนแปลงอัตราค่าดอกเบี้ยแผนการ โดยจะทำให้เกิดผลกระทบผ่านระบบการคลังในวิถีทาง
ต่างๆ5 หนทาง เช่น
- หนทางอัตราค่าดอกเบี้ย (Interest rate channel)
- วิถีทางสินเชื่อ (Credit channel)
- วิถีทางราคาทรัพย์สิน (Asset price channel)
- วิถีทางอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange rate channel)
- หนทางการคาดคะเน (Expectations channel)
โดยการส่งผ่านภายใต้วิถีทางกลุ่มนี้จะขยายตัวกว้างไปสู่ความเคลื่อนไหวของการใช้จ่ายและก็การลงทุนใน
ระบบเศรษฐกิจรวมทั้งจะก่อให้เกิดผลเสียต่อปริมาณผลผลิตและก็อัตราเงินเฟ้อท้ายที่สุด