Tagged: DCA

ถัวเฉลี่ยหรือทีเดียว ได้หมดถ้าสดชื่น

มีการตั้งคำถามกันมานานเกี่ยวกับวิธีการลงทุน ระหว่างการใช้วิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Averaging: DCA) กับลงทุนแบบครั้งเดียว (Lump Sum) แบบไหนจะดีต่อใจมากกว่า คำตอบที่ได้ยินมาก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือ ลงทุนวิธีไหนก็ได้แต่ขอให้มีวินัย มีความเหมาะสมกับสไตล์การลงทุนตัวเอง เข้าอกเข้าใจเรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนเท่านี้จะประสบความสำเร็จมากกว่าล้มเหลว แนวคิดพื้นฐานของวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน คือ การใช้เงินลงทุนในจำนวนเท่าๆ กันด้วยการกำหนดช่วงเวลาลงทุนที่แน่นอน เป็นการลงทุนสม่ำเสมอและระยะยาว เช่น หักเงินออกจากเงินเดือน 1,000 บาททุกๆ สิ้นเดือนเพื่อไปลงทุนหุ้นหรือกองทุนรวม ส่วนนักลงทุนที่มีวินัยสุดๆ จะกำหนดด้วยตัวเองว่าในแต่ละเดือนจะแบ่งเงินไปลงทุนเท่าไรเช่น ซื้อกองทุนรวมเดือนละ 2,000 บาท สล็อตออนไลน์ สำหรับแนวคิดพื้นฐานวิธีการลงทุนแบบครั้งเดียว คือ ใช้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อลงทุนในจังหวะเวลาที่ประเมินแล้วว่าเหมาะสม...

สร้างวินัยลงทุนด้วย DCA

การออมเป็นเรื่องใหญ่ การลงทุนเป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคตของทุกคน เรื่องนี้ทุกคนรู้ แต่ทำไมทำไม่ได้ซักที ทำไมยังไม่ลงมือทำหรือทำแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ คำถามคือ อะไรที่เป็นสาเหตุ ฉุดรั้งให้การออมและลงทุนไม่สำเร็จ ก็คงต้องตอบว่าพฤติกรรมหรือเรียกว่าวินัย ไม่ว่าจะเป็นการผัดวันประกันพรุ่ง การมองระยะสั้น สล็อตออนไลน์ ผัดวันประกันพรุ่ง การผัดวันประกันพรุ่งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนยังไม่ยอมลงมือทำอะไรจนกระทั่งนาทีสุดท้าย ซึ่งก็อาจจะ “สายเกินไป” การผัดวันประกันพรุ่งหรือโรคเลื่อนเป็นญาติสายตรงกับความขี้เกียจ เพราะทุกคนเกิดมาต่างก็ต้องการความสบาย อาจพูดได้ว่า ความขี้เกียจเป็นธรรมชาติของทุกคน ยกตัวอย่างเรื่อง การออม การลงทุน บางคนกว่าจะเริ่มลงมือทำก็เมื่อเริ่มเจียนตัว เงินเดือนออกก็ใช้เงินกันมือเติบ กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง พอสัปดาห์สุดท้ายของเดือน เงินหมด ก็ต้องไปหยิบยืมคนอื่น จนกลายเป็นนิสัยติดตัวไปเรื่อยๆ แต่พอมีคนแนะนำให้เก็บเงินเก็บทองก็บอกว่า...

ไม่มีใครคาดเดาตลาดได้ แม้แต่คนเดียว

เขียนให้เต็มๆ คือ นักลงทุนที่คาดเดาตลาดหุ้นได้แม่นยำ (ตลอด) ไม่น่าจะมีจริง ถ้าคาดเดาตลาดถูกเป็นครั้งคราว ถือว่าเป็นเรื่องของดวง ยิ่งถ้าคาดเดา 100 ครั้ง แล้วถูก 50 – 60 ครั้ง ก็ไม่ต่างไปจากการทอยเหรียญหรือปาเป้า สล็อตออนไลน์ ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับลดลงเยอะๆ คิดว่าดัชนีหุ้นในวันถัดไปจะปรับลดลงต่อหรือว่าจะรีบาวน์ หรือสัปดาห์ถัดไปดัชนีหุ้นจะกลับไปอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด คำตอบคือ มีความเป็นไปได้ทั้งหมด ถ้านักลงทุนยอมรับว่า ตัวเองไม่สามารถคาดเดาตลาดได้ เรื่องการลงทุนก็จะง่ายมากขึ้น เพราะเมื่อไม่คาดเดาตลาดก็ไม่ต้องซื้อขายบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวตกรถ ไม่ต้องกะจังหวะผิดพลาด ที่สำคัญถ้ายอมรับว่า “ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นหรือจะลง ก็เป็นเรื่องของตลาด” เท่ากับว่านักลงทุนจะเหลือวิธีการลงทุนที่ทำให้อยู่กับตลาดหุ้นได้ในระยะยาวคือ...

ลงทุนหุ้นแบบไหน ให้รวยตอนเกษียณ

จากสถิติการลงทุนในหุ้นไทย พบว่าถ้าซื้อหุ้นด้วยเงิน 10,000 บาทในปี 2518 จากนั้นถือมาเรื่อยๆ จนถึงปี 2560 (เป็นเวลา 43 ปี) จะได้ผลตอบแทนทบต้น 11.87% นั่นคือ เงิน 10,000 บาทจะกลายเป็น 1,243,314 บาท มีคำถามตามมาว่ามีหนทางที่ทำเงินได้มากกว่านี้หรือไม่ คำตอบคือ มี ขอแค่มีวินัย ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่หวั่นไหวต่อความผันผวนของตลาด มาเริ่มต้นด้วยการจำลองสถานการณ์ โดยให้มีเงินลงทุนเพิ่มปีละ 10,000 บาท และให้เลือกลงทุนเพิ่มได้ 4 แบบด้วยกัน slotxo ลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ...

หุ้นไทยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8 – 12% จริงหรือไม่

บทวิจัยและบทความหลายชิ้นอ้างอิงว่าตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8 – 12% ต่อปี และถ้าหากใช้กฎของ 72 ก็พอจะกะได้ว่าการลงทุนในหุ้นราว 6 – 9 ปี จะทำให้เงินลงทุนเริ่มต้นเพิ่มขึ้นเป็น 1 เท่าตัวที่ผ่านมานักวางแผนการเงินส่วนมากจะใช้ค่าสถิติประมาณนี้เป็นผลตอบแทนคาดการณ์เพื่อวางแผนลงทุน ในความเป็นจริงนักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนระดับนี้จากตลาดหุ้นไทยได้จริงหรือไม่ slotxo วิธีที่ง่ายที่สุดอาจเทียบดูผลตอบแทนจากการลงทุนใน LTF ซึ่งมีการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นหลัก พบว่าบาง Lot ที่ถือมาครบหรือเกินกว่า 5 ปีได้ผลตอบแทนเกินเท่าตัวก็มี บาง Lot ก็ได้กำไรบ้างแต่ไม่มากนัก และบาง Lot ก็ยังขาดทุนอยู่ ถึงตอนนี้คงมีคำถามว่า Lot ที่ครบ...