เทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น หุ้นกลุ่มไหน
หลังจากหายไปหลายปี ดอกเบี้ยก็กลับเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นอีกครั้ง เมื่อธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ระดับ 0.75% โดยนักวิเคราะห์ทั่วโลกประเมินกันว่า จากนี้ไปเฟดจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคำถามต่อมาก็คือ เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ธุรกิจไหนจะได้ประโยชน์ และธุรกิจไหนจะได้รับผลกระทบเชิงลบ
“วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นได้เริ่มต้นแล้ว”
หลังจากที่เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบล่าสุด (15 มีนาคม 2560) แน่นอนว่ามีผลกระทบต่อประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศ ทั้งในรูปการกู้ยืมและตลาดหุ้น โดยคาดว่าจะทำให้สภาพคล่องส่วนเกินที่มีอยู่ในระดับหลายแสนล้านบาท ค่อยๆ ลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้
ประกอบกับปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลก จากต้นทุนราคาน้ำมันดิบโลกที่กระเตื้องขึ้นจากปีที่ผ่านมาและอยู่ในระดับ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเงินเฟ้อไทยอยู่ที่ระดับ 1.4 – 1.5% ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยอยู่ที่ 1.5% ทำให้ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยกับเงินเฟ้อเริ่มลดลง
แน่นอนว่าวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นย่อมกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ก็คือ ธุรกิจที่มีหนี้สินน้อย ซึ่งดูได้จาก D/E Ratio อยู่ในระดับต่ำ และธุรกิจที่หาประโยชน์ได้จากดอกเบี้ยขาขึ้น
ธุรกิจที่ได้ประโยชน์
ธนาคารพาณิชย์ จะได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งโครงสร้างการปล่อยสินเชื่อแบบลอยตัวมีสัดส่วนมากกว่าเงินฝากที่ลอยตัว ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) กว้างขึ้น
ประกันชีวิต เพราะภาระหนี้สินที่เกิดจากการถือกรมธรรม์ระยะยาว ทำให้ต้องนำเงินเบี้ยประกันไปลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้คุ้มค่ากับภาระหนี้สินดังกล่าว โดยตามมาตรฐานการบัญชี ในภาวะดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดแนวทางในการคำนวณมูลค่าหนี้สินที่เกิดขึ้น
ในอนาคตมาเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ
นั่นคือ กำหนดอัตราคิดลด โดยใช้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีย้อนหลัง 8 ไตรมาส ดังนั้น หากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Bond Yield Curve) ปรับเพิ่มสูงขึ้นก็จะทำให้อัตราคิดลด (Discount Rate) เพิ่มขึ้น ทำให้ภาระหนี้สินลดลง และส่งผลให้ภาระค่าใช้จ่ายสำรองเบี้ยประกันปรับลดลง หรือมีโอกาสโอนเงินสำรองกลับเป็นรายได้
กลุ่มอุตสาหกรรม (Real Sector) ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นก็คือ ธุรกิจที่มีกระแสเงินสดสุทธิดี (Net Cash Flow) มีหนี้สินต่ำ มีภาระดอกเบี้ยจ่ายในระดับต่ำ หรือไม่มีเงินกู้เลย หรือเรียกว่ามีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ซึ่งธุรกิจดังกล่าวจะมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มสูงขึ้น
ธุรกิจที่เสียประโยชน์
ธุรกิจลีสซิ่งและเช่าซื้อ รายได้หลักจากดอกเบี้ยรับจากการปล่อยสินเชื่อจะเป็นลักษณะการคิดดอกเบี้ยในอัตราคงที่ (Fixed Rate) ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมส่วนใหญ่มาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Float Rate) ดังนั้น หากอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยรับยังไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น
ตามทันอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยรับและอัตราดอกเบี้ยจ่าย (Interest spread) ให้มีอัตราลดลง
ดังนั้น สังเกตได้ว่าธุรกิจกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ในระดับสูง เพราะหากดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็ย่อมทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ D/E Ratio เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สื่อสาร สายการบิน บันเทิง กลุ่มธุรกิจเหล่านี้ มีโครงสร้างทางการเงินที่มีหนี้สูง โดยธุรกิจสื่อสารมีภาระหนี้สินส่วนหนึ่งกับสถาบันการเงินที่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว ในขณะที่ธุรกิจสายการบินอาจต้องลงทุนซื้อเครื่องบิน ทำให้มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยค่อนข้างสูง เช่นเดียวกับธุรกิจบันเทิง ที่อยู่ในช่วงลงทุนกับทีวีดิจิตอลซึ่งต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่
ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการก่อหนี้ ทำให้ D/E Ratio เพิ่มขึ้น จึงได้รับผลกระทบเชิงลบในช่วงที่ดอกเบี้ยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก ช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น คนซื้อที่อยู่อาศัยกันน้อยลง ก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพมูลค่างานในมือ (Backlog) เพราะวิธีรับรู้รายได้จะรับรู้เมื่อมีการโอน หมายความว่า หากขายโครงการได้แต่ยังไม่สามารถโอนได้ ก็จะกลายเป็น Backlog ซึ่งในช่วงที่เป็น Backlog โอกาสที่สถาบันการเงินจะปฏิเสธการปล่อยกู้จะเพิ่มสูงขึ้น
Backlog ดังกล่าวก็อาจไม่เป็นรายได้ โดยที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท จะได้รับผลกระทบ ในกรณีที่สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยกู้เงิน
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น นักลงทุนควรเลือกลงทุนในบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยดูจากโครงสร้างฐานะทางการเงิน โดยเฉพาะธุรกิจที่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูง (Cash Flow Operation: CFO) มีหนี้สินต่ำ หรือถ้ามีเงินกู้ก็ควรมีภาระดอกเบี้ยจ่ายในระดับต่ำ รวมทั้งให้มองหาบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ณัฐมลแนะนำ