หุ้นจ่ายปันผลเยอะๆ ดีจริงหรือ?

มีหุ้นอยู่ประเภทหนึ่ง ที่มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดไว้ใช้จ่าย เช่น นักลงทุนเต็มเวลา นักลงทุนวัยเกษียณ นักลงทุนที่เทียบผลตอบแทนการลงทุนกับดอกเบี้ยธนาคาร หุ้นประเภทนั้นคือ “หุ้นที่จ่ายปันผลสูงๆ”

ซึ่งพอดีตอนนี้ตรงกับช่วงเวลาจบไตรมาส 1 ขึ้นต้นไตรมาส 2 ในทางปฏิทินหุ้นถือกันว่าเป็นเทศกาล “จ่ายปันผล” นั่นเอง ก็มีตั้งแต่การประชุมผู้ถือหุ้น ขออนุมัติจ่ายปันผล ประกาศจ่ายปันผล กำหนดวัน XD และการจ่ายปันผลจริงๆ

สล็อตออนไลน์

นักลงทุนบางคน พุ่งเข้าตลาดหุ้นและเลือกซื้อหุ้นที่ปันผลสูงก่อนวัน XD เพื่อหวังกินเงินปันผล… บางคนเลือกซื้อหุ้นที่เพิ่งจ่ายปันผลเยอะๆหลังวัน XD เพื่อเก็บหุ้นที่ราคาถูกลง… และบางคนมองว่าหุ้นปันผลสูงมีไว้ครอบครองระยะยาว ไม่ขาย ต้องเก็บกินปันผลนานๆ แนวห่านทองคำ

คำถามมีมากมาย ว่าทำแบบไหนดีกว่ากัน ซึ่งคำถามนี้ ผมคิดว่าไม่มีคำตอบง่ายๆ ให้ฟันธง การจะปฏิบัติแบบไหน มันขึ้นกับจริตการลงทุน แนวทางการลงทุน และจังหวะชีวิตของตัวนักลงทุนเองด้วย

แต่คำถามที่น่าสนใจกว่า ผมคิดว่าเป็นคำถามที่ว่า “หุ้นปันผลเยอะๆ ดีจริงไหม?”

คำตอบของผมคือ “มีทั้งดีและไม่ดี”

jumboslot

เราต้องไม่ลืมพื้นฐานที่ว่า การที่หุ้นหรือกิจการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะมอบผลตอบแทน (กำไร) ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ สามารถทำได้ 2 ทาง คือ

หนึ่ง..กำไรจากการขายหุ้น ที่มีราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าต้นทุนที่ซื้อมา (Capital Gain Yield)

สอง.. กำไรจากเงินปันผล (Dividend Yield)

ที่มาของผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นทั้งสองข้อ มาจากกฏพื้นฐานสำคัญที่สุดว่า… กิจการต้องทำธุรกิจมีกำไร!!!

ซึ่งกำไรสุทธิทุกไตรมาส ทุกปีนั้น กิจการสามารถเลือกที่จะจ่ายปันผลออกมาตอบแทนผู้ถือหุ้นก็ได้ หรือ เก็บกำไรนั้นไว้เพื่อรักษาสภาพคล่อง หรือนำไปลงทุนขยายกิจการก็ได้ หาไม่แล้ว หากกิจการจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนก็กลายเป็นต้องกู้ยืม ส่งผลให้มีภาระดอกเบี้ยจ่ายและค่า D/E (Debt to Equity ratio) สูงขึ้น หรือแย่ไปกว่านั้นบางกิจการอาจเรียกเพิ่มทุน
เรียกเงินสดจากผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่มีใครชอบ

เครดิตฟรี

แล้วความน่าลงทุน กับการจ่ายปันผล สัมพันธ์กันหรือไม่? ขอยกตัวอย่างต่อไปนี้

  1. บางกิจการกำลังเติบโตอยู่ในช่วง Growth อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บกำไร ไว้ขยับขยายกิจการ ขยายสาขา ขยายโรงงาน ขยายโครงข่าย จึงยังไม่จ่ายปันผล หรือ จ่ายปันผลเป็นหุ้น แทนที่จะจ่ายออกเป็นเงินสดจริงๆ โดยที่มีรายได้และกำไรเติบโตขึ้นตลอด ก็จัดเป็นกิจการที่ดี มีอนาคต หุ้นที่ไม่จ่ายปันผล (หรือปันผลเป็นหุ้น) แบบนี้ก็จัดว่าน่าลงทุน
  2. บางกิจการที่เติบโตเต็มที่ จนกลายเป็นหุ้นแข็งแกร่ง มีแผนขยายกิจการ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก อาจจะจ่ายปันผลได้สูงตั้งแต่ 3% ขึ้นไป มีลักษณะเป็นหุ้นห่านทองคำ หรือบางคนเรียก cash cow แม่วัวที่รีดนมได้เรื่อยๆ แบบนี้ก็ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการเงินปันผลได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ความแข็งแกร่งของกิจการด้วย หุ้นจ่ายปันผลสูงแบบนี้ก็น่าลงทุน
  3. บางกิจการอยู่ในธุรกิจที่โตช้า หรือไม่โตอีกแล้ว อยู่ในอุตสาหกรรมตะวันตกดิน โรงงานก็มีอยู่เท่านั้น สาขาก็มีอยู่เท่านี้ สินค้าก็จะมีอยู่แค่นั้น แทบไม่มีความต้องการใช้เงินลงทุนใหม่ แต่กิจการยังพอมีกำไรทุกปี กำไรเท่าไหร่จ่ายปันผลได้หมด เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลได้เยอะ แต่กิจการไม่เติบโตอีกแล้ว จะไม่มีแผนการขยายหรือพัฒนาอะไรต่อได้อีก แบบนี้ผมเห็นว่าไม่น่าลงทุน

ถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงพอจะเห็นภาพว่า การจ่ายปันผลได้มากๆ ไม่ได้เป็นตัวแปรหนึ่งเดียวในการตัดสินใจลงทุนหรือไม่ลงทุน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของกิจการคือ กำไร และ อนาคตของกิจการ อย่าลืมว่า หากกิจการสามารถเอาเงินที่จะจ่ายปันผลไปลงทุนขยายกิจการ แล้วทำให้กิจการเติบโตขึ้น รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้นั้น ที่สุดแล้ว… ราคาหุ้นก็จะเพิ่มขึ้น

เพราะฉะนั้น บทสรุปของการเลือกหุ้นเพื่อการลงทุน อย่าดูที่เงินปันผลเพียงอย่างเดียว ต้องดูว่ากิจการนั้น ณัฐมล แนะนำ

สล็อต

  1. มีรายได้เพิ่ม มีกำไรเพิ่ม เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือไม่?
  2. มีการนำเงินไปลงทุน ขยายกิจการหรือไม่ ดีแค่ไหน อย่างไร?
  3. สำรวจกิจการเชิงคุณภาพ ทั้งผู้บริหาร ทั้งแนวโน้มความต้องการในสินค้าและบริการ ทั้งความได้เปรียบในการแข่งขัน มีดีแค่ไหน?
  4. สำรวจกิจการเชิงปริมาณ โดยติดตามดูงบการเงินในทุกไตรมาส เพื่อตรวจสอบว่ายังเป็นกิจการที่ดีจริงๆ หรือไม่?

You may also like...