ตลาดหุ้นไทย “หมดช่วง Honeymoon แต่ยังลงทุนได้”

ถึงแม้ว่านักลงทุนจะรับรู้ปัจจัยต่างๆ ไปจนเกือบหมดแล้วและปัจจัยบวกอาจจะเติมเข้ามาทำให้บรรยากาศการลงทุนเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่จากการประเมินสถานการณ์ของ สรพล วีระเมธีกุล นักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำว่า “ยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งซื้อหุ้น เพราะยังมีปัจจัยลบกดดันการลงทุนอยู่พอสมควร”

สรพลให้คำนิยามการลงทุนปี 2562 ว่า “หมดฮันนีมูนพีเรียดแล้ว แต่ยังสามารถลงทุนได้” โดยปัจจัยสำคัญสนับสนุนคือ ช่วง 3 – 5 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นหลายตัวปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและสร้างผลตอบแทนในระดับน่าประทับใจ

“งานเลี้ยงย่อมมีเลิกรา นั่นคือ ปีนี้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หมายความว่า ความคาดหวังจากการลงทุนจะต้องลดลง เช่น เดิมที่คาดหวังผลตอบแทน 20% – 30% ปีนี้จะเหลือ 10%”

สล็อตออนไลน์

สรพล อธิบายว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา นักลงทุนรับข่าวร้ายอย่างต่อเนื่องจนทำให้ตลาดหุ้นปรับลดลงอย่างเต็มที่ “แต่ยังรับรู้ข่าวร้ายไม่หมด” ดังนั้น ไตรมาสแรกปีนี้จะเป็นช่วงที่นักลงทุนยังรับข่าวร้ายต่อจากไตรมาสก่อนหน้า เช่น 45 วันแรกปีนี้จะรับรู้ข้อมูลรายงานทางเศรษฐกิจประจำไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมา เช่น ตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ
ตัวเลขอัตราภาคบริการและภาคการผลิต (PMI) ตัวเลขนำเข้าและส่งออก

45 วันตรงนี้ นอกเหนือจากรับข่าวการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่อาจจะไม่ดี ยังเป็นช่วงการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 4 ที่คาดว่าหลายบริษัทกำไรจะปรับลดลงทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) และไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และมองว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะกลับมาดีขึ้น

“นักลงทุนต้องจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรป ซึ่งหากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด จะมีผลต่อการจำกัด Upside ของตลาดหุ้นในระยะสั้น” สรพล บอก และประเด็นถัดมา คือการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนเพื่อหาทางออกในเรื่องสงครามการค้า รวมถึงทางออกของการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit)

“ทำให้ไตรมาสแรกปีนี้ นักลงทุนก็รับข่าวร้ายกันต่อไป ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยยังไม่ไปไหน”

jumboslot

ถึงแม้ยังมีปัจจัยลบรบกวนตลาด แต่สรพลแนะนำว่าหุ้นไทย “ลงทุนได้” เพราะปัจจัยพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ราคาที่ปรับลดลงมาเกิดจากความกังวลของนักลงทุนบวกกับความแพงที่สั่งสมมาก่อนหน้า

“ตอนนี้ไม่ใช่จังหวะขายหุ้น แต่ก็ไม่ได้เป็นจังหวะในการเร่งซื้อ ดังนั้น จังหวะนี้คือทยอยซื้อ ไม่ต้องรีบ” สรพล บอก

กลยุทธ์การเลือกหุ้น

นอกจากกลยุทธ์การทยอยซื้อ สรพลแนะนำหุ้นที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันคือหุ้นประเภทที่มีความปลอดภัย (Defensive Stock) คือมีโครงสร้างรายได้ที่มีความผันผวนน้อย พึ่งพิงกับปัจจัยต่างประเทศต่ำ และหุ้นที่มีการปรับประมาณการ Downside ลงไม่มาก “เมื่อตลาดหุ้นปรับลดลง นักวิเคราะห์จะมีการปรับประมาณการงบการเงินของปีที่ผ่านมาและปีนี้ ดังนั้น
ให้มองหาหุ้นที่ถูกปรับประมาณการลงไม่มาก”

เครดิตฟรี

สำหรับความเสี่ยงที่สรพลให้จับตาอย่างใกล้ชิด ก็คือ การเมือง “ผมมองว่าการเมืองโลกจะมีบทบาทต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น สังเกตว่าปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และไม่ใช่ด้านการเงิน แต่มาจากการเมืองโลกซึ่งเป็นปัจจัยที่ประเมินได้ยาก”

นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงและรบกวนตลาดหุ้นต่อไป และยังต้องเผชิญกับสงครามเทคโนโลยี (Tech War) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงของโลกที่จะกระทบต่อการลงทุน

ส่วนความเสี่ยงภายในประเทศก็ต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนถัดไปว่าจะมีนโยบายเรื่องกองทุน LTF อย่างไร “เม็ดเงินจาก LTF มีความสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยพอสมควร”

ปีนี้ สรพลประเมินดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ 1,743 จุด แต่มองว่าถ้าเกิดความเสี่ยงขึ้น กรณีแย่ที่สุด (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิด) ดัชนีหุ้นไทยจะลดลงไปอยู่ระดับประมาณ 1,410 จุด

สล็อต

“ตลาดหุ้นปีที่แล้วทำให้นักลงทุนได้รับบทเรียนในการลงทุน และเมื่อได้รับบทเรียนก็จะสามารถวางกลยุทธ์การลงทุนในอนาคตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ดี ที่นักลงทุนจะนำมาปรับใช้ในปีนี้” หุ้นคิดให้ดีก่อนลงทุน

You may also like...