Window Dressing เกิดหรือไม่
โดยปกติแล้วช่วงสิ้นไตรมาส 3 ของทุกปีมักไม่ค่อยเกิด Window Dressing เพราะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นมักฟื้นตัวจาก Low Season ของหลายธุรกิจในไตรมาส 2 กองทุนต่างๆ จึงไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตเพื่อให้ผลตอบแทนเป็นบวก แต่สิ้นไตรมาส 3 ปีนี้อาจมีเซอร์ไพรส์
Window Dressing เป็นความเชื่อทางการเงินว่ากองทุนต่างๆ จะปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรายงานผลตอบแทนให้ประทับใจผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งอาจจะทำเป็นรายไตรมาส รายครึ่งปี หรือรายปี ขึ้นอยู่กับการปิดรอบบัญชีเพื่อรายงานผลการดำเนินงานของแต่ละกองทุน โดยอาจดำเนินการบางอย่าง เช่น
ซื้อหุ้นที่มีอิทธิพลกับพอร์ตการลงทุน หรือหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูง เพื่อทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตเร่งตัวขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของแต่ละไตรมาส
ขายหุ้นที่ Underperform ในพอร์ต เพื่อนำเงินมาเพิ่มน้ำหนักในหุ้นที่ Outperform เสมือนว่าไม่เคยลงทุนในหุ้นที่ Underperform มาตลอดรอบระยะเวลาบัญชี
อาจมีการใช้เครื่องมือทางการเงินในตลาดอนุพันธ์ เพื่อถัวความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตการลงทุน ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์มีความผันผวนมากกว่าปกติ
ไม่ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อรักษาผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดอยู่แล้วให้คงอยู่ต่อเนื่อง
จะเกิด Window Dressing หรือไม่
ถ้าอิงข้อมูลสถิติ 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2557 – 2561) ไตรมาส 3 ของทุกปี เป็นไตรมาสที่มีโอกาสเกิด Window Dressing น้อยที่สุด โดยมี 3 ปีที่สัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3 ให้ผลตอบแทนเป็นลบ และมีเพียง 2 ปีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก เพราะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นมักฟื้นตัวจาก Low Season ของหลายธุรกิจในไตรมาส 2 จึงไม่มีความจำเป็นต้องปรับพอร์ตเพื่อให้ผลตอบแทนของกองทุนเป็นบวก
โดยผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง นับเฉพาะไตรมาส 3 จะอยู่ที่ 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ปีนี้จะมีความแตกต่าง เพราะไตรมาส 3 ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ดัชนีหุ้นไทย (SET Index), ดัชนี SET50 Index และดัชนี SET100 Index ปรับตัวลงหนัก 5.4%, 5.3% และ 5.9% ตามลำดับ
อีกทั้ง การเคลื่อนไหวของหุ้นเป็นลักษณะสับเปลี่ยนกลุ่มไปมา ซึ่งสะท้อนว่ากองทุนยังมีความพยายามสร้างผลตอบแทนให้ชนะตลาดหรือกองทุนเทียบเคียง จึงมีโอกาสเกิด Window Dressing
หุ้นแบบไหนที่น่าจะถูกทำ Window Dressing
ลักษณะของหุ้นที่ Outperform ในสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 2 ปีนี้ น่าจะพอใช้เทียบเคียงหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing ในช่วงสิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ได้ โดยต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
เป็นหุ้นที่ Outperform ตลาดโดยรวมมาตลอดไตรมาส 3 ปีนี้
เป็นหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เป็นหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ที่ราคายังทรงตัวในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
เป็นหุ้นที่ Current P/E Ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2557 – 2561)
เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันถือครองอยู่มาก ซึ่งส่วนใหญ่คือ หุ้นดัชนี SET50
หากช่วงสิ้นไตรมาส 3 ปีนี้ เกิด Window Dressing นักลงทุนควรวางกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ และคาดหวังผลตอบแทนระดับ 2% เท่านั้น นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
