หุ้นไทย หลุมหลบภัยในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
ขณะที่ประเด็นสงครามการค้ายังคงฉุดรั้งตลาดหุ้นทั่วโลก สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศในกลุ่มเกิดใหม่ยังคงเป็นอีกประเด็นที่ซ้ำเติมตลาดหุ้นในช่วงเวลานี้ แต่ตลาดหุ้นไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่กลับมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสมาชิกในกลุ่มท่ามกลางสถานการณ์เหล่านี้
ช่วงที่ผ่านมาประเทศในกลุ่มเกิดใหม่หลายประเทศไม่ว่าจะเป็นตุรกี อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ และเวเนซุเอลา ต่างประสบกับปัญหาเงินทุนไหลออกและวิกฤติค่าเงิน ซึ่งประเทศเหล่านี้เดิมทีมีสถานการณ์ทางการเงินที่เปราะบางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งตัวสูงอย่างต่อเนื่อง การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในอัตราต่ำ
เมื่อเผชิญกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ตึงตัวขึ้นของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาโดยการลดการซื้อพันธบัตรและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้สภาพคล่องในระบบตึงตัวขึ้น จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เงินทุนไหลออกจากประเทศเกิดใหม่เหล่านี้
ในขณะที่ความตึงเครียดเรื่องสงครามทางการค้า ยิ่งเหมือนเป็นการซ้ำเติมให้กลุ่มประเทศที่เปราะบางอยู่แล้วมีสถานการณ์ที่เลวร้ายลงไปอีก เห็นได้จากการเทขายหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่เหล่านี้ ซึ่งรวมไปถึงไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสถานะทางการเงินของไทย พบว่ามีความแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดถึง 21.4 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 11% ของ GDP
ในขณะที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก ล่าสุดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 204.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และมีโอกาสที่ไทยจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในอนาคต
โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มออกมาส่งสัญญาณว่ามีความจำเป็นที่จะใช้อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำน้อยลง ในขณะที่ปัจจัยทางการเมืองของไทยที่มีความคืบหน้ามากขึ้นจะเป็นอีกแม่เหล็กสำคัญที่จะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติให้กลับเข้ามาลงทุนในไทยได้
ช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวน โดยเฉพาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่ยังเผชิญกับแรงเทขาย ประเทศไทยเองอาจโดนแรงเทขายได้บ้างในระยะสั้น เนื่องจากโดยส่วนใหญ่นักลงทุนจะมองเป็นภาพรวม เช่น มองว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มที่อ่อนแอลงก็จะลดสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มนี้ลง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องกลับมามองที่พื้นฐานรายประเทศว่ามีประเทศใดบ้างที่ยังมีความน่าสนใจ
ซึ่งเชื่อว่าไทยจะเป็นประเทศที่โดดเด่นท่ามกลางสมาชิกในกลุ่ม ด้วยความแข็งแกร่งทางด้านสถานะทางการเงินดังที่กล่าวมาข้างต้นประกอบกับปัจจัยทางการเมือง จะทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความปลอดภัย (Safe Heaven) หรือเปรียบเสมือนหลุมหลบภัยสำหรับนักลงทุน
ดังนั้น หากหุ้นไทยในช่วงนี้ปรับตัวลง นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่จะเริ่มทยอยเข้าไปลงทุน และเชื่อว่าในช่วงปลายปีตลาดหุ้นโดยรวมจะอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น ยิ่งหากมีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน หุ้นไทยจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นมากสำหรับนักลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง
