เตรียมตัวเกษียณ ช่วงดอกเบี้ยต่ำ
“ในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำทั่วโลกนั้น ควรจะลงทุนอะไรดี” คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนคงคิดในใจ โดยล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีฉุกเฉินจาก 1.00 – 1.25% ลงมาเหลือ 0 – 0.25% ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.75% ลงมาเป็น 0.50%
คำถาม คือ พอร์ตการลงทุนเพื่อวัยเกษียณของเรานั้น ควรจะจัดการอย่างไร
ก่อนอื่นอยากให้ตระหนักว่า การลงทุนเพื่อวัยเกษียณเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้นการลงทุนระยะยาวในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ สิ่งที่ควรนำมาประกอบการพิจารณา คือ เงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ คือ การที่สินค้าและบริการมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้มูลค่าที่แท้จริงหรืออำนาจในการซื้อนั้นลดลง ดังนั้น เงินเฟ้อจึงเป็นศัตรูที่แท้จริงในการลงทุนระยะยาว
จากข้อมูลพบว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของประเทศไทยเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2528 – มีนาคม 2563 อยู่ที่ระดับ 2.52% ต่อปี ดังนั้น ในการออมเพื่อวัยเกษียณ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ จะออมอย่างไร เพื่อให้สามารถชนะอัตราเงินเฟ้อได้ ดังนั้น แนวทางในการวางแผนเกษียณในช่วงดอกเบี้ยต่ำ สามารถดำเนินการได้โดยคำนึงถึงหลักการ 3 ปรับ ดังนี้
- ปรับลดค่าใช้จ่าย
การที่จะเก็บออมเงินได้ แปลว่า ต้องมีเงินเหลือพอใช้จ่ายในแต่ละเดือน กระแสเงินสดไม่ติดลบ ดังนั้น จึงควรมีวินัยในการออมและมีการวางแผนการใช้จ่ายที่ดี โดยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การลดรายจ่าย ก่อนจะซื้ออะไรสักอย่าง อยากให้หยุดคิดสักนิด แล้วพิจารณาว่าสิ่งนั้นจำเป็นหรือไม่ หรือเพียงแค่ต้องการ ก็จะทราบว่าสิ่งใดควรซื้อและไม่ควรซื้อ
ซึ่งจะช่วยให้ลดรายการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ช่วยประหยัด และเก็บออมเงินได้
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะใช้จ่ายก่อนแล้วจึงเก็บออมทีหลัง แต่อาจจะไม่เหลือเงินให้เก็บ ดังนั้น ถ้าต้องการเก็บออมอย่างจริงจัง ควรสร้างวินัยทางการเงิน ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้จ่าย โดยการหักเงินออมก่อน เหลือเท่าไรจึงค่อยนำไปใช้จ่าย
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือ ควรทำบัญชีบันทึกรายรับ-รายจ่าย เพื่อสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง
- ปรับพอร์ตการลงทุน
ในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ถ้าเลือกฝากเงินเพียงช่องทางเดียว ผลตอบแทนที่ได้รับคือ ดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำเช่นเดียวกัน ดังนั้น ควรกระจายเงินบางส่วนไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่ดีขึ้น และสามารถชนะเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกันการกระจายเงินลงทุนยังช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อีกด้วย
เช่น ลงทุนในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวมประเภทต่างๆ หรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เป็นต้น
จากผลการศึกษาของ Brinson et al. ที่ได้ทำการศึกษากองทุนบำเหน็จบำนาญ (Pension Fund) ขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา จำนวน 91 แห่ง ในช่วงปี ค.ศ.1974 – 1983 พบว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุนมากที่สุด คือ การจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ดังนั้น หากมีการปรับพอร์ตการลงทุนและจัดสรรเงินลงทุน
ได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการลงทุน เพื่อวัยเกษียณในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำได้
- ปรับเปลี่ยนทัศนคติ
การวางแผนเพื่อวัยเกษียณในช่วงดอกเบี้ยต่ำ ต้องมองภาพรวมในการวางแผนและการลงทุนควบคู่ไปกับเงินเฟ้อด้วย
จากสมการจะเห็นได้ว่า ถ้าเลือกฝากเงินเพียงอย่างเดียวและรับดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำกว่าเงินเฟ้อ จะทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับไม่สามารถชดเชยอำนาจซื้อที่ลดลงได้ ดังนั้น การออมเพื่อวัยเกษียณ ควรมีการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่สามารถชนะเงินเฟ้อได้ จึงจะเป็นการออมและการลงทุนที่คุ้มค่า
แต่การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง และความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุด คือ การลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ลงทุนเลย เพราะฉะนั้น การมีทัศนคติที่ถูกต้อง คือ พิจารณาและศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์นั้นอย่างถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจลงทุน จะช่วยให้ลงทุนได้อย่างสบายใจ พร้อมรับวัยเกษียณ เป็นการออมก่อนวัยเกษียณ